กรุ๊ปเลือดในแมวเป็นสิ่งที่เจ้าของต้องใส่ใจ เพราะเมื่อพ่อแมวแต่งงานกับแม่แมวที่มีกรุ๊ปเลือดต่างกัน ลูกก็อาจมีสิทธิ์ได้รับกรุ๊ปเลือดได้ทั้งจากพ่อและแม่ แต่หากแม่กับลูกเป็นกรุ๊ปเลือดที่ต่างกันล่ะ ซึ่งการกินเลือดผิดกรุ๊ปจึงอาจทำให้ลูกตายได้
น.สพ.วรศิษฏ์ ประเสริฐสม สัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์ปากเกร็ด
เรื่องกรุ๊ปเลือดในแมวเป็นสิ่งที่เจ้าของต้องใส่ใจ เพราะ แมวมีระบบกรุ๊ปเลือด เป็นแบบ AB System โดยแบ่งเป็นกรุ๊ป A,B และ AB ซึ่งประชากรแมวจะมีกรุ๊ป A ประมาณ 70-80 % , กรุ๊ป B 10-20% ส่วนกรุ๊ป AB พบได้น้อยประมาณ 5%
– กรุ๊ปเลือด A จะมีแอนติบอดี้ในพลาสม่า ต่อต้าน กรุ๊ป B
– กรุ๊ปเลือด B จะมีแอนติบอดี้ในพลาสม่า ต่อต้านกรุ๊ป A (รุนแรง)
– กรุ๊ปเลือด AB ไม่มีแอนติบอดี้ในพลาสม่า ที่ต่อต้านกรุ๊ป A หรือ B ฯลฯ
แล้วความเข้ากันได้ของเลือด คือ อะไร แตกต่างจากการมีเลือดกรุ๊ปเดียวกันอย่างไร ทำไมต้องตรวจความเข้ากันได้ของเลือดอีก ทั้ง ๆ ที่เป็นเลือดกรุ๊ปเดียวกัน แมวกับหมาต่างกันหรือไม่ ของน้องหมาดูแค่กรุ๊ปเลือดก็พอใช่หรือไม่
คุณหมอวรศิษฏ์ อธิบายไว้น่าสนใจว่า การตรวจความเข้ากันได้ของเลือด (cross match) เป็นการตรวจเพื่อป้องกันการแตกทำลายของเม็ดเลือดแดงจากระบบภูมิคุ้มกัน (แอนติบอดี) ของผู้รับกับเม็ดเลือดแดงของผู้ให้ ซึ่งการให้เลือดที่ตรงกรุ๊ปจะไม่สามารถทดแทนการ cross match ได้เลย (ให้เลือดตรงกรุ๊ป ก็สามารถมีการเข้ากันไม่ได้ของเลือดอยู่ดี)
ทั้งหมา ทั้งแมว จริงๆรวมทั้งคน จะมีการตรวจกรุ๊ป และตรวจการเข้ากันได้ของเลือดในทุกกรณีเพื่อลดความเสี่ยงลงให้เหลือน้อยที่สุด
แมวเป็นระบบหมู่เลือด A B AB ซึ่งการให้เลือดไม่ตรงกรุ๊ปจึงเป็นอันตรายมาก
ส่วนหมา ความสำคัญของการตรวจกรุ๊ปเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะถ้าผู้รับเป็นกรุ๊ปลบ (DEA.1 negative) แต่เลือดผู้ให้เป็นกรุ๊ปบวก จะเกิดเป็นปฏิกิริยาต่อต้านอย่างรุนแรง หรือ หากเป็นปฏิกิริยาที่ยังไม่เกิด ณ ตอนนั้นๆ จะเกิดปฏิกิริยา delay อยู่ดี และเกิดการต่อต้านเลือด
โดยการให้เลือดกรุ๊ปตรงกัน ไม่สามารถทดแทนการตรวจการเข้ากันได้ของเลือดได้เลยครับ ต้องให้เลือดตรงกรุ๊ป และตรวจการเข้ากันได้ผ่าน จึงจะลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด