โรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือด
เมื่อสุนัขติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือด ทำไมเกล็ดเลือดถึงต่ำ มีเลือดออกจมูกและฉี่เป็นเลือด
*พยาธิเม็ดเลือดในสุนัขที่พบบ่อยในไทย ได้แก่ E.canis, Anaplasma, Babisia และ hepatozoon โดยพบว่าพาหะที่สำคัญของการติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือดเหล่านี้คือ “เห็บสีน้ำตาล” *โดยการกัดเพียงครั้งเดียว ก็สามารถส่งเชื้อให้กับสุนัขได้แล้ว แม้บางที เราอาจไม่ทันได้สังเกตเห็นว่า สุนัขเคยโดนเห็บกัด แล้วหรือยังครับ เพราะวงจรชีวิตของเห็บจะอาศัยบนตัวสุนัข 3 ครั้ง โดยการกินเลือด เพื่อเจริญเติบโตและลงไปฟักตัวในสิ่งแวดล้อม “ขึ้น” และ “ลง” จนเป็นตัวเต็มวัยใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน ดังนั้นจะต้องป้องกันเก็บอย่างน้อย 3 เดือน และต่อเนื่องด้วย โดยเห็บจะอยู่ในสิ่งแวดล้อม 80% อยู่บนตัวสุนัขเพียง 20% ดังนั้นการควบคุมเห็บจึงต้องควบคุมการติดเชื้อบนตัวสุนัข และสิ่งแวดล้อมที่สุนัขอยู่ด้วยครับ
อันตรายจากเห็บกัด ได้แก่ อันตรายจากเห็บ เริ่มตั้งแต่ตอนที่เห็บมากัดและดูดเลือดจากสุนัขครับ เมื่อกัดและดูดเลือดจะมีแผล ก็จะเพิ่มการใช้เกล็ดเลือดไปอุดผนังหลอดเลือด
นอกจากนี้น้ำลายเห็บมีความพิเศษ คือสามารถยับยั้งการทำงานของเกล็ดเลือด, ยังยั้งการเคลื่อนที่ของเกล็ดเลือด จึงค้างในตับและม้ามนาน, ต่อต้านกระบวนการแข็งตัวของเลือด เพื่อให้เลือดออกมาเรื่อยๆ เห็บสามารถดูดเลือดได้ต่อเนื่องครับ
อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ มีเซลล์อักเสบเข้ามาอีกมากๆ แต่ก็ไปกดการทำงานของเซลล์ที่ป้องกันการติดเชื้อพยาธิในเม็ดเลือดอีกด้วยครับ การติดเชื้อจึงเป็นไปแบบเรื้อรังครับ
โรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือด
โรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือดที่สำคัญคือ การติดเชื้อ E.canis ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
- ระยะเฉียบพลัน ในช่วง 8-20 วันแรกของการติดเชื้อ จะพบอาการซึม เบื่ออาหาร มีไข้ พบจุดเลือดออก โดยหากไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาไม่ต่อเนื่องมีเชื้อหลงเหลืออยู่ จะพัฒนาเข้าสู่ระยะที่ 2
- ระยะไม่มีอาการ ซึ่งใช้เวลานาน และหากภูมิคุ้มกันตกลง หรือมีอาการติดเชื้อซ้ำ จะเข้าสู่ ระยะเรื้อรัง
- ระยะเรื้อรังที่เชื้อเข้าสู่ไขกระดูกไปกดการสร้างเม็ดเลือดและเกล็ดเลือด และร่างกายตอบสนองทางระบบภูมิคุ้มกันต่อเชื้ออย่างรุนแรง เกิดการทำลายเกล็ดเลือดจากภูมิคุ้มกัน
สุนัขที่ติดเชื้อ E.canis เป็นเวลานาน จึงมักพบภาวะเกล็ดเลือดต่ำอย่างรุนแรงจากกลไกต่างๆ ที่กล่าวมา ทำให้สุนัขเกิดเลือดออกจากเส้นเลือด มีเลือดออกจากร่างกาย เช่น เลือดออกจมูก ปัสสาวะเป็นเลือด, ถ่ายดำหรือถ่ายเป็นเลือด, มีเลือดออกใต้ผิวหนังเป็นจุดๆ หรือเป็นปื้นเลือด ซึ่งสุนัขอาจเสียชีวิตได้ จากภาวะเลือดจางอย่างรุนแรงครับ
ดังนั้น การติดเชื้อพยาธิในเม็ดเลือด จึงอาจไม่ใช่แค่เพียงกินยาฆ่าพยาธิเม็ดเลือดเพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งที่เกิดตามมาอันตรายถึงแก่ชีวิตมากกว่าครับ ที่คุณหมอจะต้องเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้นจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อการติดเชื้อที่มากเกินไป จนไปทำลายเม็ดเลือดแดง, เกล็ดเลือด หรือไปทำอันตรายต่อไต เกิดไตอักเสบหรือไตวายตามมาครับ
และต้องไม่ลืมการจัดการป้องกันเห็บไม่ให้เข้ามาติดเชื้อซ้ำอีกด้วย สิ่งที่จะต้องทำไปพร้อมๆ กัน เพื่อการรักษาที่ครบวงจรครับ